Education

กลุ่มบริษัท CPG จะได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยการใช้การวิเคราะห์ขั้นสูง

Education

กลุ่มบริษัท CPG จะได้รับประโยชน์สูงสุดด้วยการใช้การวิเคราะห์ขั้นสูง


  • จากปัญหาเศรษฐกิจในโลกปัจจุบันทำให้กลุ่มธุรกิจ CPG รับรู้ได้ถึงแรงกดดันและตระหนักถึงความต้องการของผู้บริโภค
  • ด้วยการใช้กลยุทธ์การวิเคราะห์ขั้นสูงในกลุ่มธุรกิจ CPG ช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์การดำเนินการในอนาคตและจัดเตรียมความพร้อมองค์กรของคุณให้ไปสู่ความสําเร็จได้

เหล่าผู้บริโภคกำลังตกอยู่ในภาวะตึงเครียด

โลกกําลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่ปัญหาภาวะเงินเฟ้อไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและส่งผลให้ผู้บริโภคตกอยู่ในภาวะตึงเครียด แบรนด์และผู้ค้าปลีกทั้งหลายควรที่จะต้องเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคโดยเร็วที่สุด เพราะความล่าช้าใดๆ ก็ตามอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจของคุณได้

กล่าวอย่างคร่าวๆ คืออัตรกำไรขั้นต้นเป็นสิ่งสําคัญ การมีข้อมูลเชิงลึกที่แตกต่างจากคู่แข่งนั้นอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจของคุณได้

หากกล่าวถึงภาวะเงินเฟ้อ แผนภูมิด้านล่างเป็นข้อมูลการสํารวจของ NielsenIQ แสดงให้เห็นว่ามีผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาจำนวนห้ากลุ่มมีการตอบสองที่แตกต่างกันไปในช่วงการเกิดภาวะเงินเฟ้อ:

ผู้บริโภคจำนวนร 73 เปอร์เซนต์กําลังมองหาความคุ้มค่าและยินดีที่จะเปลี่ยนร้านค้าหรือเปลี่ยนแบรนด์เพื่อลดต้นทุนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ในขณะที่ 27 เปอร์เซนต์ของผู้บริโภคไม่มีท่าทีที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการช็อปปิ้งแต่อย่างใดและนี่เป็นเพียงการสำรวจในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ผู้บริโภคทั้งหลายได้รับความเดือดร้อนท่ามกลางภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้ เหล่าบริษัท CPG จึงจําเป็นต้องรู้วิธีดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคก่อนที่พวกเขาจะหันไปซื้อผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งหรือเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ของร้านค้าปลีกแทน


ความไม่มีประสิทธิภาพในอุตสาหกรรม CPG

ในขณะนี้ภาวะเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่น่ากังวล ขณะที่โลกยังคงเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นจึงทำให้ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญ

ด้วยกลยุทธ์การวิเคราะห์ขั้นสูงในกลุ่มธุรกิจ CPG นั้นสามารถช่วยให้เหล่าบริษัท CPG สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน รวมไปถึงการเกิดความคิดริเริ่มที่จะทำสิ่งใหม่ๆ ช่วยให้พวกเขาสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการปกป้องส่วนแบ่งทางการตลาด

ปัจจัยบางประการที่ก่อให้เกิดภาวะตึงเครียดในการทำธุรกิจ :

  • ข้อมูลที่มีค่าทางการตลาดและแหล่งกําไรระหว่างผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตกำลังถูกคุกคาม
  • จากแผนรายปีพบว่ามีเพียงหนึ่งในสี่เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าให้กับเหล่าบริษัท CPG และลูกค้ารายย่อยได้
  • 60 เปอร์เซ็นต์ของการส่งเสริมการขายทั้งหมดไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มใดๆ
  • ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จะถูกปล่อยออกมาทุกวัน แต่จะมีเพียง 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ยังคงสามารถกระจายและหมุนเวียนในตลาดได้อย่างเพียงพอ

การวิเคราะห์ขั้นสูงสามารถช่วยคุณได้อย่างไร

การวิเคราะห์ขั้นสูงจะช่วยคุณแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างไร คุณสามารถใช้การวิเคราะห์เพื่อรวบรวมข้อมูลและหลักฐานเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจในธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ขั้นสูงจาก NielsenIQ ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นและคาดการณ์สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมไปถึงช่วยกำหนดสิ่งที่คุณควรจะดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจของคุณต่อไปในอนาคต

ยกตัวอย่างเช่น โปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดประเภทสินค้าที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายและกําไรได้ถึง 20 เปอร์เซนต์ให้กับซัพพลายเออร์และผู้ค้าปลีกโดยการลดส่วนแบ่งทางการตลาดลงเพื่อแลกกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น สำหรับโปรแกรมวิเคราะห์การส่งเสริมการขายที่น่าเชื่อถือนั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขายได้หนึ่งเปอร์เซนต์ด้วยต้นทุนการส่งเสริมการขายเท่าเดิมและเพิ่มกําไรจากการดำเนินการได้ถึง 7 เปอร์เซนต์

คุณสามารถใช้เครื่องมือของเราเพื่อ:

  • ช่วยให้คุณระบุและคัดสรรผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่หลากหลายของคุณได้โดยไม่ต้องใช้การคาดเดาอีกต่อไป
  • เข้าใจนักช้อปและเข้าใจกลยุทธ์การจัดประเภทชั้นวางสินค้าเพื่อให้แน่ใจว่าคุณรักษาพื้นที่การขายและจัดวางสินค้าที่เหมาะสมเพื่อการเพิ่มยอดขายต่อไป
  • กระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นและตอบสนองความต้องการของนักช้อปได้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้เครื่องมือเสมือนจริงเพื่อให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของนักช้อป ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน

นี่คือข้อมูลที่คุณจำเป็นจะต้องใช้เพื่อที่จะช่วยให้คุณประสบความสําเร็จในเวลาเช่นนี้ ผู้บริโภคส่วนใหญ่คาดหวังให้คุณตอบสนองพวกเขาแต่คุณแน่ใจหรือไม่ว่าคุณให้การตอบสนองพวกเขาเพียงพอแล้วหรือยัง

การวิเคราะห์ที่ดีกว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น

ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลนั้นถูกใช้โดยผู้ใช้ที่มีความรู้และใช้กลยุทธ์นี้ในเวลาอันเหมาะสม